เด็กวัยประถม 4 โตพอที่จะได้รับการฝึกฝนเพื่อให้อดทน อดกลั้นในการไม่รับประทานอาหาร บางประเภทได้แล้วขึ้นอยู่ที่ผู้ปกครองมีความหนักแน่น เอาจริง สม่ำเสมอในการฝึก หรือไม่นะคะ เช่น หากผู้ปกครองยืนยันหนักแน่น ไม่ให้เด็ก เด็กก็จะดื้ออยู่สักระยะหนึ่ง เมื่อผู้ปกครองยังใจแข็งไปให้ เด็กก็จะค่อยๆ หยุดเรียกร้องไปเอง อีกประการที่สำคัญ คือ การให้รางวัลเด็กในการทำความดีต่างๆ ไม่ควรใช้ขนมเหล่านี้เป็นสิ่งล้อใจ ควรหารางวัลอื่นที่เกี่ยวกับการเรียน การศึกษา หรือ กีฬา จะดีกว่า การใช้อาหารเป็นรางวัล และเมื่อเด็กสามารถควบคุมการรับประทานอาหารไม่มีประโยชน์ได้ ก็ควรแสดงความชื่นชมหรือให้รางวัลเด็กบ้างค่ะ
หนูเป็นเด็กที่น่ารักที่สนใจ อยากให้ตัวเองได้รับสิ่งที่ดี การเรียนหนังสือให้ได้ดีเป็นเรื่องไม่ ยากนัก แต่ หนูต้องมีความตั้งใจอย่างจริงจัง มีความพยาม หนูเคยได้ยินเรื่องของหัวใจนักปราชญ์ ไหมคะ ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ หัวใจนักปราชญ์ ประกอบด้วยหัวใจน้อยๆ 4 ดวง ดวงแรก คือ สุ มาจาก คำ ว่า สุตะ หมายถึง การฟัง การอ่าน เช่นเมื่อเวลาคุณครูสอนในห้องเรียนก็ต้องตั้งใจ ฟังว่า ครูพูดอะไร อย่ามัวแต่คุย หรือนั่งใจลอย เวลาได้ยินข่าวสารหรือมีผู้รู้พูดอะไร ก็อย่าปล่อยไป จับประเด็นสำคัญให้ได้นอกจากนี้ให้ขยันอ่าน อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า นอกเหนือจากหนังสือเรียนก็เป็นหนังสืออื่น ๆ ที่มีประโยชน์ หนังสือการ์ตูนก็ได้ แต่นอกจากอ่านเพื่อความสนุกควรหาความรู้ประโยชน์จากเรื่องนั้นให้ได้ การอ่านนั้นหนูต้องสมัครใจอ่านด้วยตนเอง ไม่ต้องให้ใครๆ บังคับนะคะ หัวใจดวงที่ 2 คือ จิ มาจากคำว่า จินตนะ การคิด ใครครวญว่าเรื่องที่ได้ยิน ได้อ่านมานั้นมีเหตุผล น่าเชื่อถือหรือไม่ เป็นการหาเหตุผลด้วยจนเอง หัวใจดวงที่ 3 คือ ปุ มาจากคำว่า ปุจฉา หมายถึง การถาม ถ้าฟัง อ่าน คิดแล้วไม่เข้าใจ ก็ต้องถามผู้รู้ เช่น ถ้าฟังสิ่งที่ครูสอนไม่เข้าใจ เช่นครูสอนเลขคณิตแล้วเราไปอ่านทบทวนแล้วยังไม่เข้าใจ ก็ต้องถามให้ครูอธิบายให้ฟัง ดวงสุดท้าย คือ ลิมาจากคำว่า ลิขิต หมายถึง เขียน เมื่อฟัง อ่าน หรือไปเห็นอะไรที่น่าสนใจ ก็ต้องจดบันทึกไว้ เพื่อกันลืม แล้วเมื่อต้องการจะใช้ก็หยิบมาทบทวน เมื่อหนูฟัง อ่าน ถาม เขียนแล้วตอนแรกๆ อาจจะยาก แต่ต้องหัดทำบ่อยๆ ทำทุกวัน แล้วจะติดเป็นนิสัย หนูก็จะเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ และเรียนหนังสือได้ดีๆ คุณครูเอาใจช่วยนะคะ
คุณครู ไม่ปฏิเสธหรอกว่าเราควรรู้ดี เก่งในสิ่งที่เราเรียน แต่ในชีวิตปัจจุบัน และในอนาคตการรอบรู้ในเรื่องหลายเรื่องเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าหนูรู้กว้างเวลามีใครมาคุยกับหนู เขาก็จะชอบใจ หนูอาจได้เพื่อนเยอะๆ เป็นคนรวยเพื่อน หรือเวลาเขาสงสัยอยากรู้อะไร เขาอาจจะคิดถึงหนูเป็นคนแรก
นมเปรี้ยวรสผลไม้ แท้จริงมีส่วนประกอบของนมประมาณครึ่งหนึ่ง และ น้ำหวานกลิ่น/รส ผลไม้อีกครึ่งหนึ่ง มิใช่ใส่ผลไม้จริงๆ ลูกท่านจะได้น้ำตาลเพิ่มขึ้นซึ่งจะได้พลังงานมากขึ้น และเด็กจะติดรสหวาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคอ้วนต่อไปได้
นนมเป็นอาหารที่มีประโยชน์จริง เป็นอาหารที่ให้สารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน นอกจากนั้นยังมี วิตามินและเกลือแร่หลายชนิดโดยเฉพาะ วิตามินบี 2 และแคลเซียม ซึ่งหากเด็กดื่มวันละประมาณ 2 แก้ว จะเหมาะสมกับความต้องการของ เขาหากดื่มมากเป็นลิตร จะได้พลังงาน และไขมันมากเกินไป ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดโรคอ้วน และไขมันในเลือดสูงได้